แหล่งรวมโฮมสเตย์ฺ และความเงียบสงบ บ้านป่าเหมี้ยง
23 ก.ค. 2568
รายละเอียด:
- บ้านป่าเหมี้ยง เริ่มก่อตั้งขึ้นเมื่อประมาณ 200 กว่าปี มาแล้ว เริ่มต้นชาวขมุ มาอาศัยอยู่ที่บ้านป่าเหมี้ยงก่อน ต่อมาจึงมีชาวบ้านย้ายถิ่นฐานมาจาก เมืองเกาะ เมืองชัย (ไม่สามารถระบุได้ว่าปัจจุบันคือที่ใด) แต่ก่อนนั้นชาวบ้านเชื่อว่า บ้านป่าเหมี้ยง เป็น ป่าหิมพานต์ เรียกว่า ป่าเหมี้ยงแม่ปาน
- **เรื่องเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่เล่าต่อกันมาว่า มีพระฤๅษีตนหนึ่ง เดินธุดงค์ผ่านมาและแวะพักที่บ้านป่าเหมี้ยง จากนั่นพระฤๅษีจึงนั่งสมาธิและปฏิบัติกิจต่าง ๆ และเกิดอาการรู้สึกง่วง พระฤๅษีจึงนำน้ำมาต้มดื่มเพื่อให้รู้สึกดีขึ้นและเมื่อหันมองไปรอบ ๆ ก็พบต้นไม้แปลกตา ใบของต้นไม้ชนิดนี้มีลักษณะสวยงาม พระฤๅษีจึงเด็ดใบไม้ (ใบเมี่ยง) มาต้มดื่ม จึงรู้สึกดีขึ้น เมื่อนั่งภาวนาก็ไม่รู้สึกง่วง จึงจุดตะเกียงอยู่ทั้งคืน ต่อมามีนายพรานเข้ามาหาของป่าก็มาพบกับพระฤๅษี พระฤๅษีจึงนำน้ำตมกับใบไม้ (ใบเมี่ยง) มาให้นายพรานดื่ม เมื่อนายพรานดื่มแล้วก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่า สามารถนั่งห้าง (ที่นั่งบนต้นไม้สูงของนายพรานมีไว้เพื่อดูสัตว์ป่าในการล่าสัตว์) ได้ตลอดทั้งคืน จึงได้ถามกับฤๅษีว่าเป็นน้ำอะไร ฤๅษีไม่ตอบแต่บอกให้นายพรานเก็บใบเมี่ยงไปต้นดื่ม นายพรานจึงเก็บใบเมี่ยงไปและนำไปแบ่งให้กับชาวบ้านต้นดื่ม ปรากฏว่าเมื่อชาวบ้านต้มดื่มแล้วก็นั่งทำงานนั่งคุยกันไม่หลับไม่นอน เมื่อมองจากที่ไกลไกลก็เห็นชาวบ้านจุดตะเกียงอยู่เหมียง ๆ (เป็นภาษาเหนือ แปลว่า ดวงไฟสว่าง ๆ ในความมืด) ชาวบ้านจึงได้ตั้งชื่อให้กับใบไม้นั้นว่า ใบเมี่ยง หมู่บ้านนี้จึงได้ชื่อว่า หมู่บ้านป่าเหมี้ยง
-**หลังจากนั้นชาวบ้านจึงพากันไปเก็บเมี่ยงมารับประทานและเก็บแลกเปลี่ยนให้กับชาวบ้านในพื้นที่ไกลเคียง เมี่ยงจึงสามารถแลกข้าว แลกผัก แลกอาหารอื่นได้คนต่างเมืองจึงเข้ามาเก็บเมี่ยง เริ่มต้นหมู่บ้านป่าเหมี้ยงมีจำนวนประชากรไม่มาก ต่อมามีชาวบ้านที่เดินทางมาอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านป่าเหมี้ยง ได้บอกต่อกันปากต่อปากว่า ที่บ้านป่าเหมี้ยงหากใครเดินทางมาอยู่เมื่อ ตัดต้นไม้หนึ่งต้นจะเจอเงินตั้งแต่ยอดจนถึงโคนของต้นไม้ เมื่อคนในท้องถิ่นอื่นได้ยินจึงเดินทางเข้ามาในหมู่บ้าน แต่เมื่อเดินทางมาก็พบว่าไม่เป็นจริงดังคำที่กล่าวอ้าง คำกล่าวดังกล่าวเป็นเพียงอุบายที่บอกถึงประโยชน์ของตนไม้หรือธรรมชาติ แต่เมื่อคิดจะเดินทางกลับก็ลำบากเพราะการคมนาคมในอดีตไม่สะดวก จึงตัดสินใจตั้งถิ่นฐานอยู่ที่หมู่บ้านป่าเหมี้ยง ซึ่งนามสกุลที่เก่าแก่ที่สุดของบ้านป่าเหมี้ยง คือ นามสกุล ไทยใหม่ นามสกุลที่ได้รับยกย่องว่าเป็นนักรบของบ้านป่าเหมี้ยง คือ นามสกุล ข้อมือเหล็ก
-**ในอดีตการดำรงชีวิตชาวบ้านประกอบอาชีพเก็บใบเมี่ยงขาย และทำข้าวไร่ (ข้าวไร่ คือ ข้าวที่ปลูกบนพื้นที่สูง) ในอดีตเมี่ยง 1 กำ ราคากำละ หนึ่งสตางค์ และปรับขึ้นมาเป็น 50 สตางค์ และ 1 บาท โดยจะนำใส่หลังวัว หลังม้าไปขายที่ หมู่บ้านแม่สุข ทุ่งคา เมื่อมีการค้าเข้ามาเกี่ยวข้องชาวบ้านมีการแบ่งพื้นที่ในการเก็บเมี่ยงของแต่ละครอบครัว โดยแบ่งกันคนละ ๕ วา ปัจจุบันชาวบ้านจึงเรียกพื้นที่ดังกล่าวที่มีการแบ่งเขตแดนในการเก็บเมี่ยงว่า ม่อน 5 วา
- ปัจจุบันหมู่บ้านป่าเหมี้ยง ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 7 ตำบลแจ้ซ้อน อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง ห่างจากตัวเมืองลำปางมาทางทิศเหนือประมาณ 90 กิโลเมตร มีประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ ทำสวนเมี่ยง และปลูกกาแฟ พันธุ์อาราบิกา ส่วนการทำข้าวไร่นั้นชาวบ้านเลิกปลูกประมาณ 30 ปีมาแล้ว เนื่องจากการปลูกข้าวไร่ต้องตัดไม้ทำลายป่าเพื่อทำไร่เป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ และเมื่อพื้นที่บ้านป่าเหมี้ยงอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติ จึงมีการบอกห้ามการตัดไม้ทำลายป่าอย่างจริงจัง
- บ้านป่าเหมี้ยงมีอาณาเขตติดต่อกับพื้นของหมู่บ้าน อื่น ๆ ดังนี้
*ทิศเหนือ ติดกับ บ้านแม่แจ๋ม ต.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง
*ทิศใต้ ติดกับ บ้านดอนไชย ต.เมืองปาน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง
*ทิศตะวันออก ติดกับ บ้านแจ้ซ้อน ต.แจ้ซ้อน อ.เมืองปาน จ.ลำปาง
*ทิศตะวันตก ติดกับ บ้านแม่กำปอง ต.ห้วยแก้ว อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่
ข้อมูลจาก : โครงการยุววิจัยประวัติศาสตร์ท้องถิ่นจังหวัดลำปาง โดย ทีมยุววิจัย “ย้อนรอยที่บนดอยป่าเหมี้ยง” โรงเรียนเมืองปานวิทยา
**ถอดความจากบทสัมภาษณ์ พ่อหลวงยอด ต๊ะคำ ( มี.ค. 2552)
รูปภาพ
ไฟล์เอกสาร